Categories
กีฬาเอ็กซ์ตรีม

เคอร์ลิง (Curling) กีฬาแปลกแต่ลุ้นแรงมาก

หากคุณเป็นแฟนมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว และติดตามเว็บไซต์ Fun88 Thai เพื่อร่วมทายผลกีฬารายการใหญ่ๆ อยู่เป็นประจำคงจะได้เห็นกีฬาที่ชื่อว่า เคอร์ลิง (Curling) ทำการแข่งขันผ่านตากันอยู่บ้าง กีฬาแปลกที่ต้องใช้ไม้ถู ๆ ไปบนพื้นลานน้ำแข็ง และเห็นวัตถุลักษณะคล้ายหม้อน้ำไหลอยู่บนพื้น ช่างสร้างความฉงนให้ต้องติดตาม คุณรู้หรือไม่ว่าเจ้ากีฬาเคอร์ลิงนี้ก็จัดว่าเป็นกีฬาเอ็กซ์ตรีมชนิดหนึ่งด้วยเช่นกัน แม้ความหวาดเสียวจะสู้กีฬาชนิดอื่นไม่ได้ แต่ก็ทำให้ลุ้นกับผลการแข่งขันได้ไม่น้อยเลย

ทำความรู้จักกับ เคอร์ลิง (Curling) กันก่อน

เคอร์ลิงเป็นกีฬาประเภททีมที่มีผู้เล่นในทีม 3-4 คน เริ่มจากผู้เล่นแต่ละทีมเริ่มผลักอุปกรณ์ที่เป็นก้อนหินแกรนิตที่ เรียกว่า สโตน (Stone)ให้ไหลไปบนพื้นลานน้ำแข็ง เพื่อให้ก้อนหินนั้นเข้าใกล้เป้าหมายที่แบ่งศูนย์กลางออกเป็นสี่ชั้น ที่เรียกว่า เฮ้าท์ (House) เป้าหมายคล้ายการเล่นเปตอง แต่เคอร์ลิงจะมีผู้เล่นที่ช่วยกันใช้อุปกรณ์คล้ายไม้ถูพื้นถูไปบนลานน้ำแข็งเพื่อบังคับทิศทางให้เจ้าสโตนเคลื่อนที่ไปใกล้เป้าหมาย ขึ้นอยู่กับการวางแผนและการควบคุมแรงเสียดทานของพื้นน้ำแข็งที่มีต่อก้อนหินที่ไถลบนพื้น เพื่อให้ได้คะแนนมากที่สุด แม้เคอร์ลิงจะเป็นกีฬาที่ไม่ได้เน้นการปะทะทางร่างกาย แต่ผู้เล่นก็มีความจำเป็นจะต้องฝึกฝนตัวเองให้เกิดความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแขน กล้ามเนื้อหลัง รวมไปถึงลำตัวเพื่อที่จะสามารถใช้ทักษะการถูพื้นน้ำแข็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความเป็นมาของกีฬาที่ใครต่างแซวว่าเป็นกีฬาแม่บ้านนี้ มีการค้นพบหลักฐานว่าเกิดขึ้นในประเทศสกอตแลนด์ ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 ซึ่งเป็นอุปกรณ์การเล่นคือก้อนหินแกรนิตที่สลักปี ค.ศ. 1511 และมีบันทึกของทนายความชาวสกอตแลนด์ที่บันทึกถึงการแข่งขันเคอร์ลิงครั้งแรกเมื่อปี 1541 เอาไว้ด้วย ซึ่งเป็นการแข่งขันเคอร์ลิงระหว่างบาทหลวงและญาติ ๆ ที่โบสถ์ Paisley Abbey และคำว่า เคอร์ลิงก็ถูกเรียกเป็นชื่อของกีฬาชนิดนี้เป็นครั้งแรกในเมืองเพิร์ธ ประเทศสกอตแลนด์ ตั้งแต่ปี ค.ศ.1620 เป็นต้นมา           

เคอร์ลิง กีฬาแห่งการแสดงน้ำใจ

สิ่งที่ทำให้กีฬาเคอร์ลิงแตกต่างจากกีฬาประเภทอื่น ๆ อย่างเด่นชัดก็คือหลักน้ำใจนักกีฬาที่ดี ที่เรียกว่า “Spirit of Curling” ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่นักกีฬาเคอร์ลิงจะใช้แสดงน้ำใจต่อคู่ต่อสู้ หลังจากทำการแข่งขันกันแล้วเสร็จจนได้ผู้ชนะ นักกีฬาเคอร์ลิงจะไม่มีการว่ากล่าวฝ่ายตรงข้ามเรื่องความผิดพลาด และไม่แสดงความดีใจจนออกนอกหน้าหรือแสดงกิริยาที่แสดงความเยาะเย้ย รวมถึงการฉลองชัยชนะบนลานน้ำแข็งนั้นจะไม่เกิดขึ้นจนกว่าจะมีการแข่งขันจนได้ทีมผู้ชนะเป็นทีมสุดท้ายของการชิงแชมป์ ซึ่งจะเป็นการร่วมสรรเสริญทีมผู้ชนะอย่างยิ่งใหญ่เลยทีเดียว

เมื่อมีการติดต่อทางการค้าระหว่างประเทศ วัฒนธรรมการเล่นกีฬาเคอร์ลิงก็ได้รับการถ่ายทอดและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ได้มีการกำหนดกติกาการเล่นขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1838 เคอร์ลิงได้รับการบรรจุเข้าเป็นหนึ่งในมหกรรมกีฬาระดับโลกอย่างกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ครั้งที่ 1 ที่เมืองซาโมนิกซ์ ประเทศฝรั่งเศส ในปี ค.ศ.1924 และได้ถูกยกเลิกไป จนกระทั่งมีการนำกีฬาชนิดนี้ กลับมาแข่งขันใหม่อีกครั้ง ในปี 1988 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

Categories
กีฬาเอ็กซ์ตรีม

สเกตบอร์ด ความท้าทายบนกระดานที่ทำให้ใจสั่น

เมื่อไม่นานมานี้ได้มีรายการโทรทัศน์ในประเทศจีนนำกีฬาสเกตบอร์ดมาเป็นตัวชูโรงในการดำเนินรายการ ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมากกับภารกิจต่าง ๆ ที่ผู้เล่นแต่ละทีมต้องแข่งขันสเกตบอร์ดกันด้วยกติกาที่ถูกกำหนดขึ้นในแต่ละรอบ การแข่งขันสเกตบอร์ดในแต่ละครั้งก็มีการนำเทคนิคของการเล่นกีฬาผาดโผนชนิดนี้มาใช้ สร้างความหวาดเสียวในรายการกับคนดู รวมถึงการลุ้นระทึกให้กับเพื่อนรวมทีมของผู้แข่งขันด้วยกันเองด้วยว่าจะทำภารกิจผ่านไปในแต่ละรอบได้หรือไม่ จนถึงกับต้องปิดตา กลั้นหายใจกันเลยทีเดียว รายการนี้สร้างปรากฏการณ์ให้กีฬาเอ็กซ์ตรีมที่เรียกว่า สเกตบอร์ด (Skate board) กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งเป็นวงกว้าง

และในปี 2020 กีฬาผาดโผนอย่างสเกตบอร์ดก็ได้รับการรับรองให้บรรจุเข้าเป็นหนึ่งใน 5 ชนิดกีฬาน้องใหม่ ในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 หรือ Tokyo Olympic 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ทำให้ผู้ที่หลงใหลในแผ่นกระดานติดล้อต่างพากันตื่นเต้นที่จะได้เห็นกีฬาที่ตัวเองรักโลดแล่นอยู่ในการแข่งขันระดับโลก

ภายใต้ความเร้าใจ ตื่นเต้นและความเท่ในท่วงท่าลีลาของนักสเกตบอร์ดนั้น เมื่อมองอีกมุมกีฬาบนแผ่นกระดานขนาดเล็กชนิดนี้ถูกจัดให้เป็นกีฬาที่ผู้เล่นประสบอุบัติเหตุมากที่สุดเป็นอันดับต้น มีตั้งแต่อาการบาดเจ็บเล็กน้อย เช่น ฟกช้ำ เคล็ดขัดยอก ไปจนถึงอาการบาดเจ็บรุนแรง อาทิ กระดูกร้าวหรือหัก ไม่ว่าจะแขน ขา ตลอดจนใบหน้าและศีรษะก็เป็นได้

เพราะฉะนั้นเมื่อใดที่คุณเริ่มอยากสร้างความเร้าใจให้ชีวิตด้วยกีฬาสเกตบอร์ด คุณก็ควรตรวจสอบในแน่ใจว่าคุณมีความรู้พื้นฐานในด้านความปลอดภัยเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจะได้แน่ใจว่า คุณจะไม่เสียใจในภายหลังเพราะคุณละเลยมันไป บทความนี้มีคำแนะนำง่าย ๆ ที่คุณสามารถป้องกันตัวเองได้ อย่างเช่น

การมีน้ำใจต่อผู้เล่นคนอื่น โดยเฉพาะผู้เล่นที่เด็กกว่า

เมื่อคุณไปร่วมสนุกบนลานกว้างที่เป็นที่สาธารณะ สิ่งที่ต้องระวังเป็นพื้นฐานคงไม่พ้นการชนกันระหว่างผู้เล่นด้วยกันเอง เมื่อคุณต้องควบคุมตัวเองอยู่บนสเกตบอร์ดก็เป็นเรื่องยากต่อการควบคุมทิศทางหากคุณไม่ชำนาญ ในบางครั้งอาจทำให้เกิดการปะทะกัน ยิ่งเมื่อมีผู้เล่นที่อายุน้อยที่มักควบคุมสเกตบอร์ดได้ยาก คุณก็ควรช่วยหลีกเลี่ยงเพื่อป้องกันการปะทะ

ประเมินความสามารถของตัวเองให้ดี

การประเมินความสามารถของตัวเองคือสิ่งที่ควรมี เพราะเราจะได้รู้ข้อจำกัดของตัวเอง อย่าลองทำในสิ่งที่ร่างกายหรือจิตใจของคุณยังไม่พร้อม หรือในบางครั้งผู้เล่นจะได้รับความกดดันหรือการท้าทายจากเพื่อนฝูง เพื่อให้คุณแสดงลีลาผาดโผนทั้งที่ไม่ได้รับการฝึกฝนอย่างถูกต้อง ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงก็เป็นได้

รักษารูปร่างและน้ำหนัก

เรื่องพื้นฐานที่ไม่ว่านักกีฬาประเภทไหนก็ให้ความสำคัญสำหรับรูปร่างและน้ำหนัก สำหรับกีฬาสเกตบอร์ดยิ่งคุณมีน้ำหนักมากเท่าไร ยามเมื่อคุณล้มก็จะเจ็บมากเท่านั้น เพราะฉะนั้นการควบคุมน้ำหนักและความสมดุลของร่างกายจึงเป็นสิ่งที่ควรดูแลอยู่เสมอ

ที่กล่าวมาเป็นเพียงคำแนะนำพื้นฐานเพื่อความปลอดภัย และเมื่อคุณให้ความสนใจกับกีฬาชนิดนี้อย่างจริงจัง คุณสามารถเรียนรู้วิธีป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากการเล่นสเกตบอร์ดได้อีกหลายวิธี คุณก็สามารถลดอาการบาดเจ็บไปพร้อมกับความท้าทายบนแผ่นกระดานได้อย่างไร้กังวล

Categories
กีฬาเอ็กซ์ตรีม

โรลเลอร์เบลด (Rollerblading) ความอิสระบนรองเท้าติดล้อ

โรลเลอร์เบลด หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า อินไลน์ สเกต เป็นกีฬาเอ็กซ์ตรีมที่ที่เกิดขึ้นมากว่า 300 ปี โดยนักประดิษฐ์ชาวดัตซ์ในศตวรรษที่ 17 โรลเลอร์เบรดเป็นหนึ่งในกีฬาที่ได้รับความนิยมระดับโลกและเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งสาเหตุของความนิยมนั้น นอกจากเป็นกีฬาเพื่อใช้แข่งขัน ยังมีข้อพิสูจน์ว่าโรลเลอร์เบรดยังเป็นตัวช่วยในการออกกำลังกายได้เทียบเท่าการเต้นแอโรบิกเลยก็ว่าได้ และบางครั้งก็มีการนำโรลเลอร์เบรดมาใช้ประโยชน์ในการขนส่งแทนการเดินอีกด้วย

แม้โรลเลอร์เบรดจะมีประโยชน์และเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก ในอีกด้านโรลเลอร์เบรดก็เป็นสาเหตุของความเจ็บปวดด้วยเช่นกัน อย่างเช่นในปี 1996 มีรายงานว่าเด็กผู้หญิงและวัยรุ่นที่มีอายุต่ำกว่า 21 ปี กว่า 76,000 คน ได้รับบาดเจ็บระหว่างการเล่นโรลเลอร์เบรดและได้รับมีจำนวนไม่น้อยที่ต้องเข้ารับการรักษาในห้องฉุกฉิน นับเป็นจำนวน 14% ของนักเล่นสเกต

เพราะฉะนั้น หากคุณอยากลองเล่นเจ้ารองเท้าติดล้อนี้แล้วละก็ คุณก็ควรเรียนรู้วิธีป้องกันอันตรายจากการเล่นโรลเลอร์เบรด ซึ่งมีวิธีที่เข้าใจง่ายเพียงไม่กี่ข้อ ดังนี้

สวมอุปกรณ์นิรภัยอยู่เสมอ

การสวมอุปกรณ์นิรภัยคือวิธีที่ดีที่สุดให้การป้องกันการบาดเจ็บของคุณ ไม่ว่าจะเป็นหมวกนิรภัย สนับป้องกันการกระแทกสำหรับอวัยวะต่าง ๆ เช่น เข่า ข้อศอกและข้อมือ อุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยให้คุณเกิดความมั่นใจกับการเล่นเพิ่มขึ้นอีกด้วย

ปฏิบัติตามกฎกติกา

เมื่อคุณได้เข้าไปเล่นโรลเลอร์เบรดภายในสนาม หลายครั้งที่อุบัติเหตุเกิดขึ้นจากความประมาท เพราะผู้เล่นไม่ได้ปฏิบัติตามกฎกติกา เช่น การไม่ปฏิบัติตามสัญญาณไฟจราจรหรือป้ายบอกทาง สิ่งที่เกิดขึ้นคือการปะทะกันของผู้เล่น เพราะฉะนั้นการวิ่งบนตามฝั่งของถนนจำเป็นเรื่องจำเป็น และไม่ควรเล่นโรลเลอร์เบรดบนทางเท้า เพราะจะทำให้การใช้ความเร็วไม่สม่ำเสมอ รวมถึงสูญเสียการทรงตัวเมื่อพื้นทางเท้านั้นไม่เท่ากัน

ประเมินความสามารถของตัวเอง

การประเมินความสามารถของตัวเองตามประสบการณ์และการฝึกฝนจะช่วยให้คุณสามารถประเมินสถานการณ์ได้ว่า การเล่นโรลเลอร์เบรดในระดับใดที่คุณสามารถรับความเสี่ยงจากการโลดโผนและไม่ส่งผลให้คุณได้รับบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาชนิดนี้ได้ มีนักกีฬาหลายคนได้รับบาดเจ็บจากความคึกคะนองจากแรงเชียร์จากเพื่อนที่ท้าทายให้ลองแสดงท่าทางแปลกใหม่ จนทำให้เกิดเรื่องที่ไม่คาดฝัน เพราะเหตุนี้การประเมินความสามารถของตัวเองก็คือสิ่งสำคัญ อย่าแบกรับความเสี่ยงโดยไม่จำเป็นเพียงเพื่อความสนุกสนานในครั้งเดียว

แม้ว่าสาเหตุหลักที่พบบ่อยที่สุดสำหรับอาการบาดเจ็บคือการเสียสมดุลการทรงตัวของผู้เล่น มาจากสภาพของพื้นที่การเล่นนั้นมีความบกพร่องบนพื้นถนน ทำให้เกิดการสะดุดจนผู้เล่นไม่สามารถควบคุมได้ อาการส่วนใหญ่ที่พบจากผู้เล่นโรลเลอร์เบรดนั้น มักจะได้รับบาดเจ็บ และจำนวนกว่าสองในสามของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บนั้นมักมีอาการกระดูกข้อมือหัก แต่เมื่อคุณเข้าใจวิธีป้องกันตัวเองอย่างง่าย ๆ นี้แล้ว และอยากลองเล่นกีฬาที่ได้รับความนิยมกว่าร้อยปีนี้ดู ก็เริ่มมองหาโรลเลอร์เบรดที่ถูกใจสักคู่แล้วเริ่มฝึกฝนตั้งแต่นาทีนี้ได้เลย

Categories
กีฬาเอ็กซ์ตรีม

ปากัวร์ (Parkour) จากวินัยแห่งกองทัพสู่การวิ่งอย่างไร้ขอบเขต

เมื่อพูดถึง ปากัวร์ (Parkour)หลายคนคงเพิ่งเคยได้ยินชื่อกีฬาชนิดนี้ แต่ถ้าอธิบายว่าปากัวร์เป็นกีฬาที่คล้ายกับ Free Running คงมีไม่น้อยที่จะเข้าใจได้ในทันที ซึ่ง “ปากัวร์” เป็นคำในศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดมีที่มาจาก Parcours du combatant เป็นวิธีการฝึกฝนวินัยทางร่างกายของทหารชาวฝรั่งเศส ซึ่งใช้การฝึกด้วยการวิ่ง กระโดดปีนเขา กระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง หลบหลีก โดยไม่หยุดพักและไม่อุปกรณ์ใดใด นอกจากรองเท้าวิ่งที่มีน้ำหนักเบา ทำให้ในช่วงปี 1980 ปากัวร์จึงได้รับความนิยม กลายเป็นกีฬาที่ใช้การวิ่ง ปีน กระโดด รวมถึงคลานลงกันพื้นโดยการเคลื่อนย้ายร่างกายให้เร็วที่สุด ทั้งสถานการณ์ ทั้งสภาพแวดล้อมที่ถูกสร้างขึ้น

เสน่ห์ของปากัวร์ คือการผสมผสานการวิ่ง การปีน รวมถึงลีลาอ่อนช้อยคล้ายกีฬายิมนาสติก จึงทำให้คณะกรรมการโอลิมปิกสากลมีการนำเสนอกีฬาปากัวร์เข้าบรรจุเป็นกีฬาเพื่อใช้ในการแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนปี 2024 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

ปากัวร์ วิ่งไปในทุกที่แบบฟรีสไตล์

การวิ่งคือกีฬาที่ง่ายที่สุดหากคุณต้องการเริ่มที่จะออกกำลังกาย เพียงคุณมีเพียงรองเท้าที่เหมาะกับรองเท้าของคุณเพียงเท่านั้น คุณก็สามารถใช้เวลาว่างไม่กี่นาทีเพื่อเสริมสร้างสุขภาพของตัวเองได้ แต่หากคุณมองหากีฬาเอ็กซ์ตรีมที่จะเปลี่ยนการวิ่งในแบบธรรมดาของคุณ ให้กลายเป็นการวิ่งที่สร้างความตื่นเต้น ท้าทายให้กับหัวใจของคุณเพิ่มขึ้น คุณก็น่าจะตกหลุมรักเจ้ากีฬาที่เรียกว่า ปากัวร์ ได้อย่างไม่ยากเย็น

แถมปากัวร์ยังสามารถเล่นได้แทบจะทุกที่ อย่างเช่น ภายในเขตของมหาวิทยาลัย โรงเรียน ที่มีพื้นที่กว้างขวาง รวมไปถึงสนามเด็กเล่น ชายหาดที่ทอดยาว ยิมเนเซียม ลานกว้างของสวนสาธารณะ หรือแม้กระทั่งในป่าก็ยังมีคนเข้าไปเล่นปากัวร์ด้วยเช่นกัน

แต่ถ้าหากคุณกำลังคิดว่า ปากัวร์เป็นกีฬาที่ไม่อันตราย ขอให้คุณคิดใหม่ได้เลย เพราะการวิ่งอย่างปากัวร์ก็แฝงด้วยอันตรายได้เช่นกัน ถ้าหากไม่ได้เรียนรู้วิธีป้องกันความปลอดภัยอย่างเหมาะสม ซึ่งอาการบาดเจ็บส่วนใหญ่ของปากัวร์ เกิดจากตัวผู้เล่นที่มีความประมาทหรือทำในบางสิ่งที่เกินความสามารถของตัวเอง ตัวอย่างเช่น การกระโดดลงสู่พื้นจากที่สูงเกินไป

การฝึกฝนปากัวร์ไม่ต่างอะไรกับการเริ่มเล่นกีฬาชนิดต่าง ๆ คุณต้องเริ่มจากการเรียนรู้การใช้กล้ามเนื้อ สร้างความคุ้นเคยกับการบังคับกล้ามเนื้อของร่างกายในการเคลื่อนไหวไปในทิศทางตามสิ่งกีดขวางที่ปรากฏอยู่ด้านหน้า สั่งสมประสบการณ์จากการฝึกฝนกล้ามเนื้อขา ข้อเท้า ยิ่งฝึกฝนปากัวร์มากเท่าไรร่างกายของคุณก็จะพร้อมรับมือกับอุปสรรคที่กีดขวางอยู่ด้านหน้า การฝึกซ้อมบ่อย ๆ จะให้ทำคุณมีความแข็งแกร่งของร่างกายเพิ่มขึ้น แกนกลางลำตัวที่เกี่ยวข้องกับกระดูกสันหลังจะแข็งแรง ร่างกายทั้งส่วนบนและส่วนล่างได้พัฒนา และมีสมาธิมากขึ้น ตลอดจนปรับตัวได้ดีขึ้นในสถานการณ์ทุกประเภท ในขณะเดียวกันคุณก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยทุกครั้ง โดยการไม่พยายามใช้พลังให้การทำกิจกรรมมากจนเกินไป ประเมินข้อจำกัดและมีความรับผิดชอบต่อตัวเองอยู่เสมอ          

Categories
กีฬาเอ็กซ์ตรีม

Paraski กีฬาเอ็กซ์ตรีมเกิดใหม่จากสองกีฬายอดนิยม

เมื่อนึกถึงกีฬาเอ็กซ์ตรีมร่วมกับฤดูหนาวและหิมะสีขาว กีฬาที่โดดเด่นอยู่ในจินตภาพก็คงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกเสียจากกีฬาเอ็กซ์ตรีมที่เรียกว่า “สกี” กีฬาที่ผู้เล่นต้องยืนอยู่บนไม้กระดานแคบ ๆ แล้วไถตัวเองด้วยไม้ค้ำยันให้พื้นกระดานลื่นไถลลงไปตามเนินเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว

คุณและเพื่อน ๆ อีกหลายคนอาจเคยตกหลุมรักเจ้ากีฬาชนิดนี้ จากการการลื่นไถลจากยอดเนินเขาหลบหลีกสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ทำให้สัมผัสถึงสายลมเย็นที่ปะทะร่างกายจนได้ความสดชื่นจนลงมาสู่พื้นด้านล่าง แล้วถ้าหากมีกีฬาอีกชนิดที่ตื่นเต้นและเร้าใจกว่าการเล่นสกีธรรมดาทั่วไป คุณอยากลองท้าทายดูสักครั้งไหม วันนี้เราจะแนะนำการเล่นสกีที่มากกว่าการไถไม้กระดานให้คุณได้รู้จัก

Paraski สกีที่มาพร้อมกับร่มชูชีพ

Paraski กีฬาเอ็กซ์ตรีมแนวใหม่ที่ผสานกีฬาเอ็กซ์ตรีมที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ สองชนิดมารวมกัน นั่นคือ “สกี” และ “กระโดดร่ม” สองกีฬาที่มีความโดดเด่นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง จนไม่มีใครคาดคิดว่าจะเข้ากันได้ดีจนเกิดเป็นกีฬากระตุกต่อมความท้าทายได้อย่างลงตัวที่เรียกว่า “Paraski”

กติกาการเล่น Paraski นั้นเข้าใจไม่ยาก เมื่อคุณมีประสบการณ์การเล่นสกีในระดับเชี่ยวชาญ ด้วยการใช้ท่า Giant Slalom เล่นสกีลงจากเขาโดยใช้วิธีการเลี้ยวซ้ายสลับขวาในการควบคุมความเร็วไม่ให้เร็วจนเกินไป แต่สิ่งที่เป็นจุดหมายของคุณไม่ใช่ตีนเขาแต่เป็นหน้าผาหิมะ

ผู้เล่นทุกคนจะต้องสวมทั้งรองเท้าสกีและร่วมชูชีพ เมื่อบังคับสกีให้ไถไปด้วยความเร็วที่มากพอจนทำให้ร่มชูชีพที่ติดอยู่ด้านหลังถูกพัดจนยกขึ้นจาพื้นและเริ่มทะยาน ผู้เล่นบางคนที่หลงใหลการล่องลอยอยู่บนอากาศก็จะลอยตัวอยู่เป็นเวลานาน ในขณะที่บางคนท้าทายความตื่นเต้นด้วยการลงสู่พื้นหิมะแล้วไถตัวเองต่อไป ก่อนลอยกลับขึ้นไปบนอากาศอีกครั้ง จนบางทีก็คล้ายการกระโดดไปมาระหว่างเนินเขา เป็นการเล่นกีฬาสองชนิดได้พร้อมกันอย่างไหลลื่นทำให้เป็นการเปิดมุมมองใหม่ของกีฬาเอ็กซ์ตรีมเลยก็ว่าได้

ในปัจจุบันเริ่มมีการเปิดแข่งขันกีฬา Paraski กันอย่างจริงจังเพิ่มมากขึ้น ใช้วิธีการเก็บคะแนนสะสมจากการเล่นสกีตามหลักสูตร Giant Slalom ภายใต้ข้อบังคับ FIS ของสหพันธ์กีฬาสกีนานาชาติ ซึ่งบ่งบอกว่าคุณต้องผ่านการฝึกฝนและสั่งสมประสบการณ์ด้านการเล่นสกีมากพอสมควร คุณถึงจะสามารถร่วมแข่งขัน Paraski นี้ได้

หลังจากไถสกีจนร่มของคุณพาคุณลอยไปในอากาศ สิ่งที่ต้องทำต่อจากนั้นก็คือการบังคับร่มชูชีพให้ลงสู่เป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ความยากของกีฬานี้คือการบังคับร่วมชูชีพบนภูมิประเทศที่เป็นเนินเขาหิมะที่มีสภาพภูเขาที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา บนความสูงกว่า 1,000,000 เมตร การลงสู่เป้าหมายที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 4-5 เมตร แต่คะแนนจะถูกตัดสินจากไม่ใช้เรื่องง่ายเลยที่คุณจะบังคับให้จอดลงตรงจุดกลางเป้าหมายที่สามารถทำคะแนนให้คุณมากที่สุด

Paraski ถือว่าเป็นกีฬาที่ค่อนข้างใหม่สำหรับกีฬาเอ็กซ์ตรีม หากคุณเริ่มสนใจกีฬาชนิดนี้ ก็อย่าลังเลที่จะเริ่มเรียนรู้ แล้วออกไปท้าทายกีฬาใหม่นี้ด้วยตัวเอง

Categories
กีฬาเอ็กซ์ตรีม

BMX กีฬาคุ้นหูตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน

ในวัยเด็กคุณน่าจะเคยได้ยินคำว่า BMX กันมาบ้าง และจะมีความเข้าใจว่ามันคือชื่อเรียกของจักรยานสองล้อทั่วไป แต่ในความเป็นจริงนั้น BMX ย่อมาจาก Bicycle Motocross เป็นรูปแบบหนึ่งของลักษณะการขี่จักรยานที่กำหนดขึ้นเพื่อเลียนแบบการขับขี่รถจักรยานยนต์ Motocross

BMX เริ่มขึ้นในช่วงต้นของปี 1970 เมื่อเด็ก ๆ ในแถบแคลิฟอร์เนียตอนใต้ได้มีการจัดการแข่งขันจักรยานเสือหมอบบนเส้นทางวิบาก โดยมีพยายามเลียนแบบการแข่งขันการขับรถมอเตอร์ครอสของนักแข่งรถที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น BMX เป็นที่นิยมแพร่หลายอย่างมากในสหรัฐอเมริกาและอีกหลายประเทศเช่นกัน เพราะ BMX เป็นกีฬาแนวผจญภัย จักรยานที่ใช้จึงถูกออกแบบขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อลดความเสียหายจากการใช้งานอย่างโลดโผน ซึ่งความโลดโผนโจนทะยานนี้เป็นกิจกรรมสันทนาการที่เด็ก ๆ ไปจนถึงผู้ใหญ่หลายล้านคนทั่วโลกชื่นชอบ จนมีการจัดการแข่งขัน BMX ทั้งในประเภทความเร็วและลีลาเลียนแบบการแข่งขัน Motocross จนได้มีการบรรจุเข้าชิงชัยเหรียญทองเป็นครั้งแรกในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ปี 2008 ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน

สร้างกล้ามเนื้อด้วย BMX

ถ้าคุณมองหากีฬาที่จะสร้างความแข็งแรงของร่างกาย การเล่นกีฬา BMX ก็เป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับกล้ามเนื้อของคุณในอีกรูปแบบหนึ่ง เพราะเมื่อคุณได้ใช้การขี่จักรยาน BMX เพื่อการออกกกำลังกายอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการใช้เท้าถีบจักรยาน กล้ามเนื้อขาในส่วนต่าง ๆ ของคุณจะถูกใช้งานในทุกสัดส่วน และในขณะเดียวกันเมื่อคุณยกคันบังคับรถจักรยานของคุณขึ้น เมื่อต้องเผชิญอุปสรรคหรือลูกเล่นบนทางจักรยาน กล้ามเนื้อแขนของคุณก็จะได้รับการบริหารในทุกส่วนเช่นเดียวกัน

BMX ขึ้นชื่อเรื่องความอันตราย

นอกจากเรื่องความสนุกสนานท้าทายแล้ว BMX ยังขึ้นชื่อในเรื่องความอันตรายในอันดับต้น ๆ ของกีฬาเอ็กซ์ตรีมอีกด้วย ซึ่งจะขอยกตัวอย่างความอันตรายเพื่อให้คุณทำความเข้าใจก่อนจะลองเล่นกีฬาชนิดนี้

BMX มีความเร็วที่เป็นอันตราย การควบคุมจักรยานนั้นจะมีความยากขึ้นเมื่อระดับความเร็วของจักรยานเพิ่มมากขึ้น การปั่นจักรยาน BMX จะต้องใช้ความเร็วในระดับสูงโดยไม่มีการหยุดพัก เพราะฉะนั้น ร่างกายของผู้เล่นจำเป็นต้องทำหน้าที่รวมเป็นส่วนหนึ่งของจักรยาน เช่น ขาและเท้ากลายเป็นโช้คช่วยในการรองรับแรงกระแทก สายตาที่แม่นยำเพื่อสังเกตสภาพอุปสรรคที่อยู่ด้านหน้า เป็นต้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องฝึกฝนเพื่อพัฒนาทักษะในการบังคับรถจักรยานอยู่สม่ำเสมอ

อาการบาดเจ็บของนักกีฬา BMX ส่วนใหญ่เกิดจากการใช้ความเร็วที่บ้าคลั่ง แต่นักกีฬา BMX ส่วนใหญ่จะบอกเสมอว่า “คุณจะต้องมีความคลั่งไคล้ในกีฬา BMX” ถึงแม้ไม่มีใครอยากได้รับบาดเจ็บหรือเห็นคนอื่นบาดเจ็บเช่นเดียวกัน แต่การเล่นกีฬา BMX นี้ จะทำให้ผู้เล่นได้รับผลกระทบทางร่างกายอย่างหนัก ดังนั้นผู้เล่นจึงต้องอาศัยความคลั่งไคล้ในกีฬาชนิดนี้เพื่อจะได้มองข้ามความเจ็บปวดนั้น และจับจักรยานคู่ใจขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เพราะมุมมองของคนที่หลงใหล BMX แม้จะเป็นกีฬาอันตรายที่สุด แต่ก็ยอมรับได้ว่าเป็นกีฬาเอ็กซ์ตรีมที่ยังสนุกที่สุดเช่นกัน

Categories
กีฬาเอ็กซ์ตรีม

Xpogo กระโดดให้สูงกว่าใคร ๆ ด้วยขากระโดด

Xpogo กีฬาชื่อแปลกที่อาจไม่ค่อยคุ้นหูสำหรับคนไทยอย่างเราสักเท่าไร แต่ถ้าเรียกให้เข้าใจง่าย ๆ ว่า “ขากระโดด” เราก็คงพอจะนึกภาพออกอยู่บ้าง Xpogo หรือเรียกอีกชื่อ ว่า Extreme Pogo เป็นกีฬาแอ็คชั่นที่มีวิธีเล่นด้วยการขี่บนอุปกรณ์ที่เรียกว่า ขากระโดด (Pogo Stick) และแสดงลีลาอันน่าทึ่ง สร้างความตื่นเต้น ทั้งการกระโดด การเคลื่อนที่ที่พลิ้วไหวเป็นจังหวะ นักกีฬาสามารถแสดงศักยภาพในการกระโดดสูงได้มากกว่า 3 เมตร

จุดเริ่มต้นของ Xpogo เริ่มต้นขึ้นในปี 1999 ชายชาวสหรัฐอเมริกาได้สร้างเว็บไซต์ขึ้นมาเพื่อใช้แบ่งปันรูปภาพและวิดีโอของเขา และมีการรวมตัวของผู้ที่มีแนวคิดอยากสร้างสรรค์กีฬาผาดโผน จนมีการติดต่อกันผ่านเว็บไซต์ ทำให้พวกเขาแบ่งปันเทคนิคและสื่อที่เกี่ยวข้องกับการเล่นกีฬาได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนสามารถคิดค้นกีฬา Xpogo ขึ้นมาได้

เมื่อปี 2000 – 2004  นักกีฬา Xpogo ได้เริ่มปรากฏตัวมากขึ้นทั้งในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น อย่างเช่น เนเธอแลนด์ เพราะได้แรงบันดาลใจจากเว็บไซต์ที่แชร์เรื่องราวและวิดีโอเกี่ยวกับกีฬาชนิดนี้ เมื่อความนิยมในกีฬาชนิดนี้มากขึ้น ก็ส่งผลให้เกิดการร่วมตัวกันเป็นกลุ่มคนที่หลงใหลในกีฬาขากระโดดนี้เพิ่มขึ้น ในช่วงแรกเริ่มเดิมเพียงแท่งเหล็กสปริงที่สามารถหาซื้อได้จากร้านค้าปลีกทั่วไป ใช้การเด้งขึ้นจากพื้น เมื่อแท่งเหล็กเด้งลงพื้น น้ำหนักจะถูกกดอัดกับสปริง และเมื่อดึงขึ้น สปริงที่อัดกลับมาจะช่วยให้ผู้เล่นเด้งกลับขึ้นไปในอากาศ

ในปี 2004 เป็นปีแรกที่อุปกรณ์การเล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีมที่เรียกว่า “Extreme sticks” ถือกำเนิดขึ้น ได้รับการพัฒนาให้เหมาะสมกับความผาดโผนที่เพิ่มขึ้นของ Xpogo ซึ่งแทนที่จะใช้สปริงเหล็กเหมือนเก่า ก็เปลี่ยนมาผลิตโดยใช้ยางที่มีความยืดหยุ่นดีกว่าเข้ามาใช้ Xpogo ได้รับรับความนิยมเรื่อยมาจนเริ่มมีการแข่งขันภายนอกประเทศสหรัฐอเมริกา มีการใช้เป็นนักกีฬา Xpogo เข้าร่วมอยู่ในขบวนพาเหรดในแคลิฟอร์เนีย หรือแม้กระทั่งใช้ Xpogo ในโฆษณาของแบรนชุดกีฬาชื่อดังในช่วงโอลิมปิก ณ กรุงลอนดอน

Xpogo ถึงเป็นแค่กระโดด แต่ถ้าพลาดก็เจ็บหนัก

เนื่องจาก Xpogo เป็นกีฬาที่ผู้เล่นต้องถูกแรงส่งให้เด้งลอยขึ้นไปบนอากาศ อุบัติเหตุพื้นฐานที่อาจเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาก็หลีกหนีไม่พ้นการล้มจนร่างกายกระแทกพื้น แต่สิ่งที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในการเล่น Xpogo ก็คือการลื่นล้มที่เกิดจากบางอย่างที่ผิดปกติบนพื้นผิวที่เรียบหรือพื้นผิวลาดเอียง ที่ส่งผลให้เกิดความเสียหายของด้านล่างของอุปกรณ์จนหลุดออกมา และแรงส่งที่รุนแรงจะทำให้ผู้เล่นลื่นล้มศีรษะกระแทกพื้น เพราะเหตุนี้ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬามือสมัครเล่น ตลอดไปจนถึงนักกีฬามืออาชีพก็ยังต้องเตรียมพร้อมสำหรับอุปกรณ์ป้องกันชิ้นสำคัญอย่าง หมวกนิรภัย

ที่เล่ามาเป็นเพียงแค่การแนะนำกีฬาเอ็กซ์ตรีมอีกหนึ่งชนิดที่ได้รับความนิยมมาช้านาน ถ้าหากคุณอ่านแล้วสนใจอยากลองท้าทายความสูงแบบไม่ต้องเดินทางไปถึงภูเขา ลองค้นวีดีโอการเล่น Xpogo ได้ตามแพลตฟอร์มคลิปวิดีโอที่มีอยู่อย่างแพร่หลาย เพื่อเป็นแนวทางในการฝึกฝนได้เช่นกัน

Categories
กีฬาเอ็กซ์ตรีม

สตรีท ลูจจ์ (Street luge) กีฬาอันตรายท้าทายแรงโน้มถ่วง

ถ้าหากคุณรู้จักกีฬาเอ็กซ์ตรีมที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลกอย่างสเกตบอร์ด คุณก็น่าจะเคยรู้จักกีฬาอีกชนิดหนึ่งที่การเล่นต้องอาศัยแผ่นกระดานติดล้อที่มีลักษณะคล้ายสเกตบอร์ดที่ชื่อว่า สตรีท ลูจจ์ (Street luge) แต่การเล่นนั้นแสนจะแตกต่างกับสเกตบอร์ดโดยสิ้นเชิง เพราะสตรีท ลูจจ์ ต้องใช้แผ่นกระดานขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อในผู้เล่นนอนราบลงบนกระดานนี้ ก่อนปล่อยให้ไหลลงจากที่สูงตามแรงโน้มถ่วงของโลก ไถลไปตามทางริมถนน โดยที่ไม่มีเบรกและบังคับความเร็วที่มากกว่า 112 – 164 กิโลเมตรต่อชั่วโมงไม่ได้ นับว่าเป็นกีฬาอีกชนิดหนึ่งที่นับว่าอันตรายมากเลยทีเดียว

กีฬาที่ค้นพบด้วยความบังเอิญ

สตรีท ลูจจ์เกิดขึ้นในแถบแคลิฟอร์เนียตอนใต้ จากนักเล่นกีฬา Downhill Skateboard ที่ค้นพบว่าการเล่นสเกตบอร์ดที่ไถลลงบนถนนของพวกเขาสามารถทำความเร็วได้เพิ่มมากขึ้น เมื่อใช้การนอนราบไปบนแผ่นสเกตบอร์ด จึงเรียกว่า “Laydown Sketebording”

กลางปี 1990 สตรีท ลูจจ์ได้รับความนิยมจนมีการจัดการแข่งขันขนาดเล็กขึ้นในแคนาดา แอฟริกาใต้ ออสเตรเลีย สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี สวีเดนและสหราชอาณาจักร ซึ่งกติกาจะแตกต่างกันไปในแต่ละท้องที่ แต่หลังจากช่วงปลายปี 1990 ไปจนถึงต้นปี 2000 ความนิยมของกีฬาสตรีท ลูจจ์เพิ่มมากขึ้น และกำลังเติบโตในหลาย ๆ ประเทศ จนปัจจุบันมีผู้หลงใหลในสตรีท ลูจจ์ทั่วโลกกว่า 1,200 คน

เนื่องจากเป็นกีฬาที่มีความอันตราย นอกจากผู้เล่นจะต้องมีทักษะในการเล่นแล้วนั้น ผู้เล่นก็จำเป็นที่ต้องป้องกันการบาดเจ็บของตัวเองด้วยการสวมอุปกรณ์ป้องกัน ซึ่งมีสิ่งที่ประกอบด้วย ดังนี้

  1. หมวกนิรภัยแบบแข็งที่มีสายรัดคาง เพราะ เป็นกีฬาที่ใช้ความเร็วเป็นอย่างมากและในบางครั้งผู้เล่นไม่สามารถควบคุมทิศทางและความเร็วได้ อาจจะทำเกิดอุบัติตุที่กระทบกระเทือนที่ศีรษะไม่มากก็น้อย เพราะฉะนั้นการป้องกันศีรษะของตัวเองจึงเป็นเรื่องสำคัญ
  2. โล่บังใบหน้าหรือแว่นตา เนื่องจากการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วจนทำให้เกิดการโต้กันระหว่างใบหน้าและสายลม แถมด้วยการนอนราบที่ทำให้ศีรษะใกล้กับพื้นถนน หากไร้เครื่องป้องกันเหล่านี้ ก็อาจทำให้ใบหน้าและดวงตาได้รับบาดเจ็บ
  3. ชุดหนังหรือชุดป้องกันที่เรียกว่า Kevlar racing suit การไหลลงจากที่สูงด้วยความเร็วกว่า 112 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แน่นอนว่าร่างกายของผู้เล่นสตรีท ลูจจ์ จะถูกเสียดสีทั้งจากลมหรือพื้น การสวมชุดปกคลุมร่างกายที่มีความหนาและความยืดหยุ่น จะช่วยปกป้องร่างกายของผู้เล่น รวมถึงช่วยลดแรงเฉื่อยในการไหลลงจากที่สูง ทำให้ได้ท้าทายความเร็วเพิ่มขึ้นอีกด้วย
  4. ถุงมือหนัง หรือ Leather or Kevlar gloves อุปกรณ์สำคัญอีกอย่างที่สำคัญ ที่ช่วยให้ผู้เล่นยึดเกาะกับกระดานได้เป็นอย่างดี และแน่นอนว่าช่วยป้องกันการบาดเจ็บที่มือหากเกิดการเสียดสีกับพื้นถนน
  5. รองเท้า ถึงแม้การเล่นสตรีท ลูจจ์จะเป็นการนอนราบไปกับแผ่นสเกตบอร์ด แต่รองเท้านับเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะเมื่อการไหลของสตรีท ลูจจ์ถึงจุดสิ้นสุด ผู้เล่นมักจะใช้เท้าชะลอความเร็ว             

นอกจากทักษะส่วนบุคคลที่จำเป็นอย่างยิ่งในการเล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีมแล้ว สตรีท ลูจจ์ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า อุปกรณ์ที่ดีจะช่วยป้องกันอันตรายสร้างความปลอดภัยให้แก่ตัวผู้เล่นก็เป็นส่วนสำคัญนอกเหนือไปจากทักษะส่วนบุคคลที่มี เพราะแม้ว่าจะชอบกีฬาที่ท้าทายโลดโผนแค่ไหน หากเจ็บหนักจากการเล่นกีฬานั้นก็คงไม่สนุกเป็นแน่

Categories
กีฬาเอ็กซ์ตรีม

เด้งให้ตัวลอยกับ Blobbing ถุงลมแห่งฤดูร้อน

ในปัจจุบันการเล่นแนวผาดโผนผจญภัยเริ่มได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง จนทำให้เกิดแหล่งท่องเที่ยวแนวแอดเวนเจอร์เกิดขึ้นมากมาย และแน่นอนว่าภายในสถานที่ท่องเที่ยวที่เน้นการผจญภัยแบบใช้กำลังจะต้องมีเครื่องเล่นที่สร้างความหวาดเสียวกับผู้ใช้บริการ ซึ่งจะขาดไม่ได้เลยกับกิจกรรม Blobbing ที่ถูกจัดเป็นกีฬาทางน้ำกลางแจ้งที่มีกติกาการเล่นไม่ยาก เพียงแค่มีผู้เล่นหนึ่งคนนั่งอยู่ตรงส่วนท้ายของถุงลมขนาดยักษ์ที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ เรียกว่า Water trampoline หลังจากนั้น ผู้เล่นอีกหนึ่งหรือสองคนจะกระโดดลงไปยังถุงลมยักษ์ในฝั่งตรงข้าม แล้วผู้เล่นคนแรกก็จะถูกดีดตัวขึ้นไปลอยอยู่ในอากาศก่อนตกลงสู่พื้นน้ำด้านล่าง กิจกรรม Blobbing เป็นที่นิยมมากในค่ายฤดูร้อน ทางแถบอเมริกาเหนือ

Blobbing จากอุปกรณ์ทางการทหารสู่การเล่นสุดมันส์

แต่เดิม Blobs คือถังน้ำมันเชื้อเพลิงขนาดใหญ่ที่เป็นอุปกรณ์ทางการทหาร มีลักษณะเป็นถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลงที่ลอยอยู่ข้างเรือ มีลูกเรือที่กระโดดจากเรือสู่ถุงลมยักษ์เป็นครั้งแรก เมื่อเวลาผ่านไปก็เกิดเป็นที่นิยมในหมู่ลูกเรือ แต่มีบันทึกถึงการใช้งานครั้งแรกของ Blobs ว่าเกิดขึ้นที่ค่ายฤดูร้อนก็ตาม จนกระทั่งมีการสร้างถุงลมยักษ์อย่างจริงจังโดยบริษัทในเท็กซัส ในเวลาต่อมาก็ยกเลิกการผลิตลง แต่ในทางกลับกัน Blobs ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก จนบริษัทอื่น นำไปพัฒนา ออกแบบ และผลิต Blob จนมีรูปแบบเป็นถุงลมขนาดใหญ่ โดยใช้ผ้าไวนิลเคลือบสองชั้น จนมีตัวแทนจำหน่าย Blobs อยู่ในหลาย ๆ ประเทศ แทบทุกมุมโลก

Blobbing ได้รับความนิยมจนได้มีการจัดแข่งขันชิงแชมป์ยุโรป เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2011 จนถึงปัจจุบันก็ยังมีการจัดแข่งขันไปทั่วยุโรป แม้จะมีกฎระเบียบเข้มงวดที่เพิ่มขึ้นตามความเหมาะสม แต่ Blobbing ก็ยังคงเป็นกิจกรรมที่สนุกและให้ผู้เล่นได้รู้สึกถึงความอิสระ อย่างไรก็ดี การเล่น Blobbing ผู้เล่นก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยทั้งในฐานะคนที่เป็นฝ่ายกระโดด หรือฝ่ายที่ถูกดีดจนตัวลอย ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างมากที่ต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันร่างกายอย่าง หมวกกันน็อค อุปกรณ์ความปลอดภัยนี้จะช่วยป้องกันความบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการกระโดดลงบนถุงลมยักษ์ หรือในระหว่างที่ผู้เล่นตกลงน้ำ ผลกระทบจากการปะทะลงบนพื้นผิวของถุงลมยักษ์หรือพื้นผิวของน้ำก็อาจสร้างอันตรายได้ หากไม่ได้รับการป้องกันอย่างถูกต้อง อย่างเช่น เด็กชายคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บขณะเข้าค่ายที่ศูนย์ฟื้นฟู อุบัติเหตุเกิดขึ้นเนื่องจากเด็กชายขาดอุปกรณ์ป้องกัน และได้บิดตัวเมื่อเขากระแทกพื้นน้ำ เขาถูกส่งตัวไปที่ศูนย์พยาบาลโดยเฮลิคอปเตอร์ไปที่ศูนย์การแพทย์สำหรับเด็กในเมืองฟอร์ตเวิร์ธ เพราะเขาหมดสติไปชั่วขณะหนึ่ง นับเป็นอุบัติเหตุร้ายแรงครั้งแรกของค่ายแห่งนี้ เนื่องจากค่ายนี้มีเด็กเข้าร่วมกว่า 10,000 คนต่อปีและมีการเล่น Blobbing เป็นเวลานานกว่า 18 ปี โดยไม่เคยมีปัญหาใด

แม้ว่า Blobbing จะไม่ได้เป็นกีฬาที่มีความวับซ้อน หรือเสี่ยงอันตรายมากเท่ากีฬาเอ็กซ์ตรีมชนิดอื่น ๆ แต่การป้องกันไว้ก่อนโดยการสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันตัว และเล่นในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีความเสี่ยงมากนัก ก็จะช่วยให้ผู้เล่นสนุกสุด ๆ อย่างไร้กังวล

Categories
กีฬาเอ็กซ์ตรีม

Balance Board กระดานฝึกทรงตัว เล่นได้ตั้งแต่เด็กถึงโต

Balance Board หรือที่เรียกเป็นภาษาไทยว่า กระดานฝึกการทรงตัว หรือ กระดานฝึกความสมดุล แต่ก่อนนั้น Balance Board เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ฝึกและโชว์ของสัตว์ในคณะละครสัตว์ ไม่เพียงแต่เป็นกีฬาเอ็กซ์ตรีมที่ท้าทายผู้เล่นเท่านั้น แต่ยังเป็นอุปกรณ์เพื่อใช้ฝึกความสมดุลของร่างกาย ช่วยพัฒนาสมองในด้านการฝึกดนตรีและพัฒนาบุคลิกภาพ

ไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็กหรือโตเป็นผู้ใหญ่ก็สามารถเล่น Balance Board ได้ในทุกช่วงวัย ยิ่งตอนเป็นเด็กเล็กที่เพิ่มเริ่มถึงวัยเรียนรู้ด้วยแล้ว การได้เล่นกระดานฝึกทรงตัวจะช่วยเด็ก ๆ ได้ฝึกการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อมัดใหญ่ สามารถเล่นได้ทั้งมือและเท้า ช่วยส่งเสริมพัฒนาการทำงานของระบบประสาทการเคลื่อนไหวให้แข็งแรง

สำหรับวัยผู้ใหญ่ การใช้ Balance Board จะช่วยให้ได้ปรับสมดุลของร่างกาย ผ่อนคลายจากการทำงาน ได้ร่างกายที่กระชับ ตลอดจนกล้ามเนื้อที่แข็งแรง แก้ปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการนั่งทำงานเป็นเวลานาน ดังนั้นจะดีมากแค่ไหนถ้าคุณรู้จักวิธีผ่อนคลายร่างกายด้วย Balance Board

8 วิธีฝึก Balance Board ที่สามารถทำได้ในที่ทำงาน

  1. การยืนนิ่งอยู่บนกระดานทรงตัว การนั่งทำงานทั้งวันเป็นภัยคุกคามที่น่ากลัวต่อสุขภาพ แต่พนักงานออฟฟิศหลาย ๆ คนก็มีความจำเป็นต้องใช้เวลาในการทำงานที่ยาวนาน วิธีการสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อด้วยกระดานฝึกทรงตัวด้วยการพยายามยืนนิ่ง เพื่อไม่ให้ขอบกระดานทั้งสองด้านแตะพื้น เป็นการออกกำลังกายกล้ามเนื้อขาส่วนบนและส่วนล่าง รวมไปถึงกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวอีกด้วย
  2. การเอนตัวไปข้างหน้า หรือ เอนถอยหลัง การฝึกแบบนี้จะช่วยส่งเสริมความสมดุลทางร่างกายในส่วนของข้อเท้า ทำให้ข้อเท้ามั่นคง เริ่มจากการยืนนิ่งตรงกลางกระดานให้สมดุล ก่อนจะเอียงกระดานไปด้านหน้าอย่างช้า ๆ จนกระทั่งของกระดานสัมผัสพื้น จากนั้นค่อย ๆ ขยับเอนไปด้านหลังจนขอบกระดานสัมผัสพื้นที่ด้านหลังเช่นกัน
  3. การเอนไปด้านข้าง เป็นการเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อข้อเท้า การฝึกคล้ายการเอนไปด้านหน้าและหลัง ในระหว่างออกกำลังกายด้วยกระดานสมดุล คุณก็ควรรักษาแกนกลางของร่างกายให้มั่นคงและเคลื่อนไหวอย่างสม่ำเสมอ
  4. การหมุนตามเข็มนาฬิกา การฝึกทักษะนี้ ต้องใช้ทักษะการทรงตัวที่ดี เพื่อความปลอดภัยคุณก็ควรหาที่ยึดเกาะก่อน แล้วค่อย ๆ เอียงกระดานไปด้านหน้าจนติดพื้น จากนั้นก็เริ่มหมุนกระดานไปตามทิศของเข็มนาฬิกาเป็นวงกลม เมื่อครบรอบก็ทำเช่นเดียวกัน แต่กลับทวนเข็มนาฬิกาแทน
  5. การยืนเท้าเดียว เมื่อคุณเริ่มคุ้นเคยกับการยืนสองเท้าบนกระดานแล้ว ลองเปลี่ยนมาเป็นยืนเท้าเดียวดูบ้าง เป็นการท้าทายตัวเองให้ตื่นเต้นอีกแบบหนึ่ง
  6. การเอียงเท้าเดียวไปด้านหน้า และถอยหลัง การทำทักษะนี้จะช่วยเพิ่มความมั่นคงและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อข้อเท้า
  7. การเอียงไปด้านข้างด้วยเท้าเดียว เป็นการเพิ่มความมั่นคงแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อข้อเท้า สามารถป้องกันอาการข้อเท้าพลิกได้เป็นอย่างดี
  8. การใช้เท้าเดียวหมุนกระดานสมดุล วิธีนี้เป็นทักษะที่ท้าทายที่สุด เริ่มด้วยการเอียงหมุนตามเข็มนาฬิกา เมื่อครบรอบก็หมุนกลับตามเข็มนาฬิกา

เมื่อคุณได้ลองใช้ Balance Board แล้ว สิ่งที่คุณจะได้รับอย่างสังเกตได้เลยก็คือความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและข้อต่อ ร่างกายจะรู้สึกเมื่อยล้าลดลงเมื่อต้องนั่งทำงานเป็นเวลานาน เพราะฉะนั้น Balance Board ก็นับเป็นสิ่งที่ให้ประโยชน์อย่างมากเลยทีเดียว